หารือมิถุนายน 60
วันที่ 5 มิถุนายน 2560 ที่ห้องประชุมเมืองใหม่ 1 เทศบาลนครแหลมฉบัง
นายบุญเลิศ น้อมศิลป์ อดีตนายกเทศมนตรีตำบลแหลมฉบัง
ในฐานะประธานที่ปรึกษาคณะผู้บริหารเทศบาลนครแหลมฉบัง
เป็นประธานการประชุมปรึกษาหารือของคณะผู้บริหาร ซึ่งนำโดย นางจินดา ถนอมรอด
นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง และ สมาชิกสภาเทศบาลฯ (ส.ท.) นำโดย นายบุญเรือน มุ่งหามณี
ประธานสภาเทศบาล พร้อมด้วยผู้ทรงคุณวุฒิ และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ
ของประชาชนในพื้นที่
ในวันนี้ ได้เชิญ นายไพศาล ปรางศรี หัวหน้ากลุ่มงานวิชาการโยธาธิการ
และผังเมืองจังหวัดชลบุรี เข้าร่วมประชุมชี้แจงการขอแก้ไขผังเมืองรวมบริเวณอุตสาหกรรม
และชุมชนแหลมฉบัง
กรณีขอเปลี่ยนแปลงใช้พื้นที่ให้รองรับการพัฒนาเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก
(EECI)
ทั้งนี้ผังเมืองรวมแหลมฉบังเดิมประกาศใช้ในปี
2555 เพื่อให้สรอดรับกับการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน
ประกอบกับ เขตส่งเสริมการพัฒนาเขตนวัตกรรมเศรษฐกิจภาคตะวันออก พล.อ.ประยุทธ
จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้มีการปรับปรุงผังเมืองของแหลมฉบังเดิม
โดยเฉพาะพื้นที่สีน้ำเงิน ซึ่งเป็นพื้นหวงห้ามเฉพาะกิจการของรัฐเท่านั้น ซึ่งจะต้องมีการขอแก้เงื่อนไข
ข้อ ต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคกับการเข้ามาลงทุนของภาคเอกชน ที่ให้เสร็จภายใน 2 เดือน ซึ่งปกติแล้วต้องใช้เวลา 90 วัน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเอื้อประโยชน์ และจูงใจให้นักลงทุนมาลง สนใจมาลงทุนในพื้นที่นี้
โดยรัฐบาลจะทำการส่งเสริมต่อไป พื้นที่ดังกล่าวคือ
ศูนย์รับสัญยานดาวเทียมเดิม ปัจจุบันอยูในการดูแลของ เจสต้า ประมาณ 1 ร้อยกว่าไร่
และพื้นที่ของแคชเทเลคอมอีกประมาณ 8 ร้อยกว่าไร่ ที่จะใช้เป็นพื้นที่หลักในเรื่องของการพัฒนา
นวัตกรรมการบิน และอวกาศ
ในส่วนพื้นที่ของแคชเทเลคอม
ประมาณ 8 ร้อยไร่ จะมีการลงทุนของแคช เอง ซึ่งจะมีทั้งโรงแรมหรูระดับ
5-6 ดาว ศูนย์สัมมนาระดับอาเซียน และศูนย์การเรียนรู้เรื่องการสื่อสาร
ถือเป็นฮับศูนย์เรียนรู้ดิจิทอลปราค์ไทยแลนด์ ระดับอาเซียน เลยก็ว่าได้
ในระหว่างนี้ทางโยธาธิการและผังเมือง
ได้ปิดประกาศภายใน 30 วัน ให้ประชาชนได้รับทราบ
ถึงการปรับปรุงสีของผังเมืองบริเวณนี้ ซึ่งจะเสร็จสิ้นภายในเดือนนี้
ว่าประชาชนมีความเห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วย อย่างไร จากนั้นจะรวบรวมความคิดเห็น
ส่งให้กรมผังเมืองฯ และในระดับกระทรวงต่อไป
นายบุญเลิศ
กล่าวว่า เห็นด้วยกับโครงการ EECI ของรัฐบาล
แต่อยากจะฝากถึงรัฐบาล ด้วยว่าขณะนี้การพัฒนาในพื้นที่ของเทศบาลนครแหลมฉบัง ถือว่าก้าวกระโดด
ซึ่งเทศบาลนครแหลมฉบัง ควรที่จะเป็นเมืองพิเศษ เหมือนเมืองพัทยา หรือ กมท. ได้แล้ว
เพื่อสรอดรับกับการพัฒนาของพื้นที่ ได้อย่างตรงเป้ามากขึ้น
นายภูษิต
แจ๋มศรี ปลัดเทศบาลนครแหลมฉบัง ชี้แจงว่า ตนได้มีโอกาสไปร่วมประชุม การเตรียมการรองรับ
ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ได้นำเสนอให้ที่ประชุมว่า หลังจากนี้ไปจนถึงปี 2565
ที่รัฐบาลวางเป้าให้โครงการนี้ สำเร็จเต็มรูปแบบ
นั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงของความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ อย่างมาก
สิ่งที่ต้องรองรับ ถนน โรงพยาบาล ความปลอดภัย โดยเฉพาะกล้องวงจรปิดทั้งเมือง
ซึ่งตอนนี้รัฐบาลได้ให้ความสำคัญ เพราะเห็นว่าเป็นการป้องการปัญหาอาชญากรรม
ที่ได้ผล โดย จ.ภูเก็ต รัฐบาล ได้อุดหนุนงบประมาณให้ทำเป็นแห่งแรก
ซึ่งตนก็ได้นำเสนอว่า โครงการ EECI พื้นที่แหลมฉบัง
สมควรที่จะต้องติดกล้องวงจรปิดทั้งเมือง เพื่อเป็นการรองรับโครงการสำคัญนี้ได้แล้ว.